นายก อบจ.สงขลา ประธานเปิดโครงการความร่วมมือพัฒนาวิชาการการแพทย์ฉุกเฉิน จังหวัดสงขลา

8 ก.ค.59 นายนิพนธ์ บุญญามณี นายก อบจ.สงขลา ประธานเปิดโครงการความร่วมมือพัฒนาวิชาการการแพทย์ฉุกเฉิน จังหวัดสงขลา และลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ในเรื่องการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน โดยมีสมาชิกอาสาสมัครรถกู้ชีพจาก อบจ.สงขลา มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี เทศบาลเมืองเขารูปช้าง และจากหน่วยงานต่างๆในจังหวัดสงขลา เข้าร่วมในโครงการฯ พร้อมทั้งลงนามความร่วมมือ กับหน่วยงาน ในส่วนของศูนย์รับแจ้งเหตุ และสั่งการ เพื่อในการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบภัยจากรถ โดยผู้อำนวยการบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เป็นผู้ลงนามร่วม และมอบเปลเคลื่อนย้ายผู้ประสบเหตุให้แก่ อบจ.สงขลา มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี หน่วยกู้ชีพไม้ขมหนึ่งจากอำเภอสะเดา เทศบาลเมืองเขารูปช้าง และเทศบาลตำบลพะวงนอกจากนั้น อบจ.สงขลา โดยนายนิพนธ์ บุญญามณี นายก อบจ.สงขลา ร่วมกับภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โรงพยาบาลหาดใหญ่ และวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธรยะลา ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนางานวิชาการ และมาตรฐานการปฏิบัติงานด้านการแพทย์ฉุกเฉิน จึงร่วมกัน ทำบันทึกลงนามข้อตกลงความร่วมมือกำหนดให้มีการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินของจังหวัดสงขลา ให้มีคุณภาพสามารถรองรับทั้งในภาวะปกติ และเหตุสาธารณภัย และเสริมสร้างศักยภาพของบุคคลากร และอาสาสมัครกู้ชีพ กู้ภัยทางการแพทย์ฉุกเฉินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น กองส่งเสริมคุณภาพชีวิตจึงจัดทำโครงการความร่วมมือพัฒนาวิชาการการแพทย์ฉุกเฉิน จังหวัดสงขลา เพื่อให้ผู้บริหารมีความรู้ ความเข้าใจในหลักการ และวิธีปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉิน พร้อมทั้งผู้ปฏิบัติงาน เพื่อเพิ่มทักษะสามารถช่วยเหลือ ผู้ประสบอุบัติเหตุอย่างถูกวิธี ณ หอประชุมอาคารศรีเกียรติพัฒน์ อบจ.สงขลาถือเป็นความก้าวหน้าทางด้านการแพทย์ฉุกเฉินให้มีความเข้มแข็งขึ้น ซึ่งทุกคนสามารถที่จะเข้าถึงการแพทย์ฉุกเฉิน ได้อย่างมีคุณภาพและเท่าเทียมกัน ซึ่งในอดีตเราได้ร่วมกันทำเรื่องนี้ด้วยจิตอาสา จนบัดนี้เราได้มีกฏหมายเป็น พ.ร.บ.ออกมารองรับการแพทย์ฉุกเฉินอย่างเป็นทางการ ดังนั้นเราจะทำอย่างไรที่จะให้ทุกคนเข้าถึงด้านการแพทย์ฉุกเฉิน และมีมาตราฐานเดียวกัน จึงต้องมีการเรียนรู้และสร้างสมประสบการณ์ วันนี้เรามีการพัฒนาองค์กร จนฝ่ายบริหารประเทศได้รองรับในจุดนี้ ในฐานะที่นั่งในบอร์ด ของการแพทย์ฉุกเฉิน จะได้นำปัญหาทั้งหมดไปพูดในบอร์ด และครั้งนี้ รัฐบาลก็ได้มีการขับเคลื่อนในการใช้สิทธิ์ในการรักษา ซึ่งเราก็ต้องใช้ความร่วมมือกับหน่วยงาน ซึ่งเราก็ต้องใช้ความร่วมมือกับหน่วยงาน สงขลาเราพยายามสร้างโมเดลรูปแบบความค่อยเป็นค่อยไป โดยไปขอความมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งพวกเราต้องไม่พูด หรือเอาเรื่องของความขัดแย้งมาพูดกัน นอกจากร่วมกันทำภารกิจขององค์กรให้สำเร็จ ซึ่ง อบจ.สงขลา เป็นเพียงหน่วยงานหนึ่งเท่านั่นที่สนับสนุนด้านการแพทย์ฉุกเฉิน อาทิเปิดการอบรมอาสาสมัครด้านการแพทย์ฉุกเฉินที่ผ่านมาถึง 7 รุ่นโดยได้รับความร่วมมือจากสาธารณสุขจังหวัด ดังนั้นเทคโนโลยีจึงสามารถช่วยให้เรามีการพัฒนาได้ แต่ที่สำคัญคือคนใช้เทคโนโลยี ต้องเข้าใจในการใช้ ฉะนั้น ระบบต่างๆ เราจึงต้องค่อยๆ ทำอย่างเป็นระบบ และพวกเราก็เป็นองค์กรหนึ่งในการสร้างระบบ