พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและคนพิการ

    2016-06-22 13:49:25
    เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559 พิธีลงนาม MOU ร่วมกันระหว่าง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กับ องค์การบริการส่วนจังหวัดสงขลา โดย นายนิพนธ์ บุญญามณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ นายแพทย์ภาสกร ชัยวานิชศิริ รองอธิบดีกรมการแพทย์ และนายสมหมาย ขวัญทองยิ้ม รองนายก อบจ.สงขลา ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและคนพิการ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อความร่วมมือทางด้านวิชาการ และบุคลากร เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ รวมทั้งสร้างระบบคุ้มครองทางสังคม ให้กับผู้สูงอายุและคนพิการ อีกทั้งสนับสนุนและพัฒนาระบบบริการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้สูงอายุและคนพิการ โดยเน้นการดูแล ช่วยเหลือ ผู้สูงอายุและคนพิการตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพ และความเข้มแข็งขององค์กรผู้สูงอายุและองค์กรคนพิการและองค์กรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้เกิดความร่วมมือโดยการมีส่วนร่วมในการดูแลผู้สูงอายุ และคนพิการ สำหรับแนวทางในความร่วมมือกันในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและคนพิการ ด้านการป้องกันโรค ด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ด้านการฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยเรือรัง และคนพิการ ด้านการรักษาพยาบาลเบื้องต้น ฯลฯ โดยกำหนดระยะเวลา 3 ปี และได้รับความร่วมมือจาก สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งขาติ ได้มาจัดทำขาเทียมมอบให้กับคนพิการในชุมชนจังหวัดสงขลา โดยมี นายนิพนธ์ บุญญามณี นายก อบจ.สงขลา และนายสุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ ได้มอบขาเทียมให้กับคนพิการในชุมชนจังหวัดสงขลา จำนวน 30 ขา ซึ่งทางสถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งขาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้นำรถโมบายเคลื่อนที่มาจัดทำขาเทียมให้กับผู้พิการ ต่อจากนั้น นายนิพนธ์ บุญญามณี นายก อบจ.สงขลา กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ลงนาม MOU ในเรื่องของการดูแลผู้สูงอายุ และการดูแลคนพิการ ซึ่งถือว่า เป็นการดูแลผู้ด้อยโอกาสและเสียโอกาสส่วนหนึ่งในสังคม ซึ่งองค์การบริการส่วนจังหวัดสงขลา มีภารกิจทั้งสองส่วนนี้อยู่แล้ว ซึ่งครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ มาช่วยทำขาเทียมให้กับคนพิการ ถือว่าเป็นโอกาสดีของคนสงขลา ที่ได้มีโอกาสเซ็นMOU ในการที่จะทำงานร่วมกัน เพราะท้องถิ่นขาดเรื่องบุคลากร ท้องถิ่นขาดเรื่ององค์ความรู้ และเทคโนโลยี่ทางการแพทย์ เมื่อเราได้บุคลากรจากกรมการแพทย์ เข้ามาดูแล ผมคิดว่าพี่น้องประชาชนจะได้ประโยชน์อย่างมากที่สุด