รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมลงพื้นที่ศึกษาดูงานบริเวณด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ ร่วมกับคณะกรรมาธิการฯ เพื่อศึกษาและรับทราบข้อมูลสภาพปัญหาความมั่นคงทางเศรษฐกิจการค้า สู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่
2024-04-29 09:31:08
วันนี้ (28 เมษายน 2567) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา มอบหมายให้ นายอภิชาติ สาราบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมลงพื้นที่ศึกษาดูงานบริเวณด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ ร่วมกับคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการฯ ในโอกาสเดินทางศึกษาดูงาน เรื่อง “ความมั่นคงของประชาชนเศรษฐกิจการค้าและกิจการชายแดนไทย – มาเลเซีย” เพื่อศึกษาและรับทราบข้อมูล ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพปัญหาความมั่นคงทางเศรษฐกิจการค้า กิจการชายแดนและความมั่นคงในชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว โดยมี นายเผดิมเดช มั่งคั่ง นายด่านศุลกากรสะเดา นายทรงพล จังศิริวัฒนธำรง ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้
.
จังหวัดสงขลาได้ขับเคลื่อนการดำเนินโครงการพัฒนาด่านพรมแดนสะเดาแห่งใหม่ เพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตามนโยบายรัฐบาล ในการพัฒนาเมืองชายแดนสร้างฐานการผลิตเชื่อมโยงกับอาเซียน การดำเนินโครงการก่อสร้างถนนเพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ อ.สะเดา จ.สงขลา ถนนเชื่อมด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัมของประเทศมาเลเซีย โดยได้มีการประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค (Expert Working Group) ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 เพื่อกำหนดกรอบระยะเวลาในการดำเนินโครงการก่อสร้าง โดยกำหนดให้มีการลงพื้นที่เพื่อสำรวจและวัดจุดเชื่อมต่อร่วมกัน ฝ่ายไทยแจ้งว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างถนนส่วนที่จะเชื่อมต่อกัน (โครงการระยะที่ 2 ) ในเดือนมิถุนายน 2567 และก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ทางฝ่ายมาเลเซียยืนยันว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในเดือนมิถุนายน 2567 และก่อสร้างได้แล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2569 ซึ่งในการลงพื้นที่เพื่อสำรวจและวัดจุดเชื่อมต่อร่วมกันเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567 ทางฝ่ายมาเลเซียแจ้งว่าจะขอกำหนดการประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค (Expert Working Group) ครั้งที่ 4 ในเดือนพฤษภาคม 2567 ต่อไป
.
อย่างไรก็ตามปัญหาการเปิดใช้ด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่จะส่งผลกระทบให้ไม่มีนักท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวในเขตชุมชนบริเวณด่านพรมแดนสะเดาเดิม โดยในการประชุมร่วมระหวางฝ่ายไทยและมาเลเซีย ฝ่ายไทยเคยเสนอให้คงจุดผ่านแดนเดิมไว้ และเพิ่มจุดผ่านแดนใหม่เป็นจุดที่ 2 แต่ฝ่ายมาเลเซียยืนยันให้มีจุดผ่านแดนเดียว ในการออกแบบครั้งแรกได้มีการออกแบบให้มีอุโมงค์ทางลอดไปยังด่านพรมแดนเดิม แต่ประสบปัญหาการจ่ายค่าผลอาสินให้กับเจ้าของที่ดินผู้ได้รับผลกระทบทำให้ต้องปรับแนวถนนมาใช้ในเขตพื้นที่ที่ทางราชการมีอยู่เดิมทำให้ไม่สามารถทำเป็นอุโมงค์เชื่อมต่อไปยังด่านพรมแดนเดิมได้
.
ทางคณะผู้เชี่ยวชาญฯ ฝ่ายไทยจึงกำหนดให้ถนนภายในของฝั่งไทยด้านขาเข้าประเทศมีทางแยกเชื่อมต่อกับถนนของด่านพรมแดนเดิมเพื่อปฏิบัติพิธีการเข้าเมืองเป็นทางเลือกให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกผ่านไปยังแหล่งท่องเที่ยวในเขตชุมชนบริเวณด่านพรมแดนเดิมได้ แต่ในด้านขากลับออกไปประเทศมาเลเซียเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการตัดการจราจรกับรถขาเข้าประเทศจำเป็นจะต้องไปปฏิบัติพิธีการ ออกนอกประเทศที่ด่านฯ แห่งใหม่ โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลามีโครงการที่จะปรับปรุงถนนเชื่อมต่อทางหลวงหมายเลข 4 กับถนนเข้าด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่บริเวณด้านตรงข้ามนิคมอุตสาหกรรมสงขลา ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อรองรับการเดินทางจากเขตชุมชนบริเวณด่านพรมแดนเดิมที่จะเดินทางออกไปประเทศมาเลเซีย ซึ่งอยู่ระหว่างการขอรับจัดสรรงบประมาณโดยคาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้าง 1 ปี ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลามีโครงการที่จะก่อสร้างเป็นสถานีขนส่งเนื้อที่ประมาณ 126 ไร่ หากมีการเปิดใช้งานด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่สำหรับการขนส่งสินค้าเท่านั้น โดยคงการเปิดใช้งานด่านพรมแดนสะเดาเดิมสำหรับรองรับรถยนต์ส่วนบุคคลและรถทัวร์บัส ถึงแม้การให้รถขนส่งสินค้าไปตรวจปล่อยที่ด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่จะลดปริมาณการจราจรบนถนนกาญจนวนิชย์บริเวณหน้าชุมชนด่านนอกก็ตาม แต่พื้นที่ด่านพรมแดนสะเดาเดิมไม่สามารถรองรับการให้บริการพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และพิธีการศุลกากรในการนำยานพาหนะเข้าประเทศเป็นการชั่วคราวที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้
.
ทั้งนี้ ในการประชุมคณะทำงานจัดทำข้อเสนอเพื่อเร่งรัดดำเนินการเปิดด่านศุลกากรสะเดาแหงใหม่ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 ได้มีการพิจารณาในประเด็นที่จะให้รถของนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางผ่านทั้งขาเข้าและขาออกเพื่อปฏิบัติพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการศุลกากรในการนำยานพาหนะเข้าออกประเทศทางด่านพรมแดนสะเดาเดิมได้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานพื้นที่ทำการศึกษาว่าจะมีรูปแบบใดได้บ้างโดยรวมถึงพิจารณาโอกาสในการเจรจาเรื่องการจ่ายค่าผลอาสินสำหรับเจ้าของที่ดินผู้ได้รับผลกระทบเท่าที่จะเป็นไปได้ ซี่งด่านศุลกากรสะเดา องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และเทศบาลตำบลสำนักขาม ได้ร่วมกันหารือแนวทางในการปรับปรุงถนนเชื่อมด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัม หโดยมีแนวคิดที่จะใช้พื้นที่บริเวณสนามกีฬาฟุตซอลของเทศบาลตำบลสำนักขามใกล้ทางเข้าด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ซึ่งเป็นที่ดิน สปก.ที่ทางเทศบาลฯ ได้รับมาใช้ประโยชน์ร่วมกับเขตทางที่มาอยู่เดิมจัดทำเป็นอุโมงค์ทางลอดถนนหรือวงเวียนเพื่อให้รถขาออกสามารถเข้าสู่แนวถนนขาออกได้โดยไม่ต้องตัดการจราจรด้านขาเข้าประเทศ โดยจะทำการศึกษาออกแบบแล้วนำเสนอคณะทำงานจัดทำข้อเสนอเพื่อเร่งรัดดำเนินการเปิดด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และคณะผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค (Expert Working Group) ต่อไป
ภาพ/ข่าว : Pr.Songkhla ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-