รองนายก อบจ.สงขลา ร่วมอำนวยพรส่งผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจำปี ฮ.ศ. 1445 ณ นครเมกกะฮ์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย

    2024-05-11 20:04:36
    รองผู้ว่าฯ สงขลา อำนวยพรส่งผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจำปี ฮ.ศ. 1445 ณ นครเมกกะฮ์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น ท่ามกลางบรรดาญาติพี่น้องที่มาส่งเป็นจำนวนมาก . วันที่ 10 พฤษภาคม 2567 นายอภิชาติ สาราบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีส่งและอำนวยพรชาวไทยมุสลิมที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ในเทศกาลฮัจย์ ณ นครเมกกะฮ์ ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ประจำปี 2567 ฮิจเราะห์ศักราช 1445 ซึ่งในปีนี้ประเทศไทยมีผู้ลงทะเบียน ทั้งหมด 7,738 คน ขณะที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ มีจำนวนผู้เดินทางมากที่สุดถึง 4,189 คน ประกอบด้วย 28 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินขาไป จำนวน 14 เที่ยวบิน และเที่ยวบินขากลับ จำนวน 14 เที่ยวบิน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา โดยมี นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี นายอับดลรอหมาน กาเหย็ม รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา/กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ตลอดจนคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ร่วมพิธีอำนวยพร ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น ท่ามกลางบรรดาญาติพี่น้องร่วมส่งผู้ที่จะไปแสวงบุญเป็นจำนวนมาก . ในการนี้ นายอภิชาติ สาราบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้กล่าวแสดงความยินดีและดีใจกับพี่น้องชาวไทยมุสลิม ที่มีโอกาสได้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ที่นครเมกกะฮ์ ประเทศซาอุดิอาระเบียในครั้งนี้ ซึ่งทุกปีจะมีพี่น้องมุสลิมจากทั่วโลกเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ที่นครเมกกะฮ์เป็นจำนวนมาก “เทศกาลฮัจย์” จึงเป็นแหล่งรวมประชาคมโลกมุสลิมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติที่ทุกคนพร้อมใจกันเดินทางไปประกอบศาสนกิจตามหลักการที่ศาสนาอิสลามกำหนดไว้ ทั้งนี้ รัฐบาลไทยได้ให้การสนับสนุนและส่งเสริมเพื่อให้การเดินทาง ไปประกอบพิธีฮัจย์ของพี่น้องชาวไทยมุสลิมเป็นไปอย่างอย่างสะดวกสบาย ปลอดภัย และ สามารถประกอบศาสนกิจนสำคัญได้อย่างสมบูรณ์ ตามที่มุ่งหวัง . รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวต่ออีกว่า “การประกอบพิธีฮัจย์” นอกจากจะเป็นการไปประกอบศาสนกิจ ที่ถูกกำหนดไว้ตามหลักค่าสอนของศาสนาอิสลามแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้พี่น้องมุสลิมได้รู้จักและศึกษาเรียนรู้จากผู้คนจำนวนมาก ดังนั้นขอให้พี่น้องมุสลิมที่ไปประกอบพิธีฮัจย์ได้ปฏิบัติดามกฎระเบียบที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด และแสดงเอกลักษณ์ ความเป็นชาวไทยมุสลิมที่ดีงามให้กับพี่น้องมุสลิมประเทศอื่น ๆ ได้เห็นประจักษ์ถึงการมีจิตใจที่เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ รักสันติ พี่น้องมุสลิมที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นผู้แทนประเทศไทยในการเป็นทูตสันติภาพ และการสร้างสันถวไมตรีกับประชาคมโลก เพราะฉะนั้นขอให้พี่น้องทุกท่านจงภูมิใจเช่นเดียวกับคนไทยทั่วประเทศ ที่ภาคภูมิใจกับพี่น้องชาวไทยมุสลิมที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ด้วย . ภาพ/ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา